Edge cloud computing คืออะไร
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Edge computing นั้นมีความแตกต่างกับ Cloud Computing อย่างไร? ในความเป็นจริงแล้ว Edge computing ก็คือ Cloud computing รูปแบบหนึ่ง แต่ การถือกำเนิดขึ้นของ edge computing ทำให้เรามี choice มากขึ้น และมี computing power ที่ใกล้กับเรามากขึ้น
Edge computing แท้จริงก็คือ cloud computing โดยองค์ประกอบหลักของ Cloud computing ประกอบไปด้วยส่วนที่เป็น compute, storage และ network ทั้ง 3 ส่วนรวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งจะต้องมี controller เป็นตัวควบคุมทั้งหมด แต่ edge computing เราทำการตัดเครื่องที่เป็น controller และ network ออกไป ทำให้ต้นทุนในการติดตั้งที่ Edge ถูกลง และ network ย้ายขึ้นไปอยู่ที่ edge switch ซึ่งสื่อสารตรงกับ core switch ที่ส่วนกลาง รวมถึงการปลด controller ออกและใช้ในลักษณะของการลง agent แทน ดังนั้น edge computing จะมีแค่ computing กับ storage เท่านั้น ในรูปแบบของ HCI (Hyper Converged Infrastructure) ทำให้การสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานกับ cloud computing มี Latency ที่ต่ำในระดับ 1-2 ms
ทำไม Edge Cloud ถึงสำคัญ?
เพราะอะไร edge ถึงมีความสำคัญกับเรามากขึ้น เพราะเนื่องจากการมาของ 5G ที่ทำให้เรามี latency ที่ต่ำลง 5G เองเป็นเสมือนตัวจุดพลุที่จะทำให้เกิด edge และมีการใช้งาน iot อย่างแพร่หลายขึ้น ซึ่งทุกคนควรพยายามหาแอปพลิเคชันเพื่อเชื่อมต่อกับ IoT ที่มี sim ฝังอยู่ robot ต่าง ๆ ควรต้องส่งข้อมูลมาเก็บไว้ที่ edge ทำการ compute และส่งข้อมูลกลับไป ความท้าทายไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลิต ฮาร์ดแวร์ หรือ แอปพลิเคชัันต่าง ๆ ทั้ง Game online self-driving car มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ edge computing ในการขับเคลื่อน ควรจะต้องตั้งใกล้ ณ จุด ๆ นั้น เพื่อเอา 5G ไปใช้ลดต้นทุน ลดคน และเพิ่มการทำ automation
ความท้าทายคือการทำ network เมื่อเราสามารถตั้ง site ที่ 2 ได้ การทำ edge ก็จะง่ายขึ้น ทำยังไงให้การมี computing power ที่ finger tips เป็นประโยชน์กับองค์กร การจะทำ edge computing ให้สำเร็จนั้น ทาง NIPA Cloud มีการใช้ open source ในการติดตั้งและนั่นคือสิ่งที่ยาก เพราะเราต้องลงทุน ทำ R&D และทำ Prove of concept (PoC) พอเราสามารถลด cost ได้ edge computing ก็จะทำได้ง่ายขึ้น ความท้าทายต่อไปคือการ work กับผู้ใช้งานจริง ๆ สัก 4-5 ที่เพื่อมั่นใจว่ามันสามารถทำได้
Edge Technology เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญ เนื่องจากเรามี 5G แล้ว ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ในต้นทุนที่ถูกลง ลองนึกภาพว่าเราต้องใช้เทคโนโลยีต่างประเทศที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์มาใช้ ก็ส่งผลให้ต้นทุนการใช้เทคโนโลยีสูงไปด้วย ถ้าเราพัฒนาเทคโนโลยีเองในต้นทุนที่ต่ำ ทุกคนสามารถใช้เทคโนโลยีได้ ก็จะทำให้ทุกคนอยากใช้เทคโนโลยี เราก็จะเป็นประเทศที่สามารถลดต้นทุนและพึ่งพาตนเองได้สำเร็จ