ทำความรู้จัก Load Balancer
ตัวช่วยสำคัญในการจัดการระบบเซิร์ฟเวอร์
ในการดำเนินงานทางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องรับมือกับ traffic ปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ องค์กรทางการเงิน และอื่น ๆ อีกมากมาย เหล่านี้จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะต้องเผชิญปัญหาการจัดการระบบเซิร์ฟเวอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Load Balancer จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว
Load Balancer คืออะไร?
Load Balancer คือระบบกระจาย request จากการใช้งานของ user หรือ client ไปยังแอปพลิเคชันหรือเซอร์วิสที่อยู่ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เพื่อลดภาระของเครื่องและลดเวลา downtime ของระบบเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้งานของ user ปริมาณมาก
ข้อดีของ load balancer คืออะไร
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบ application หรือ service โดยสามารถ scale-out ด้วยการทำ load balancing
ในกรณีที่ต้องการรองรับการใช้งานของ user ที่มีจำนวนมากขึ้น เราสามารถที่จะเพิ่มจำนวนของ application หรือ service โดยการเพิ่มจำนวนของ server และกำหนด Algorithms สำหรับจัดการ traffic การใช้งานของ user ให้สอดคล้องกับ resource ของ server นั้นๆ ได้ - ทำให้ application หรือ service มี High Availability (HA) มากขึ้น
การใช้ load balancer ในการจัดการ traffic การใช้งานของ user ไปยัง application ที่อยู่หลายๆ server นั้น เมื่อมี application บน server ใดๆ มีปัญหาไม่สามารถให้บริการหรือสามารถใช้งานได้ load balancer จะมีการ helth check เพื่อตรวจสอบและหยุดส่ง traffic ของ user ไปยัง application ที่อยู่บน server นั้นทันที และส่งต่อไปยัง application บน server ที่พร้อมให้บริการ ซึ่งทำให้ application สามารถให้บริการและใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง - ช่วยเพิ่มความเร็วของ application หรือ service
เนื่องจาก load balancer ทำการกระจาย traffic ของ user ไปยัง application ที่ทำงานอยู่บน server หลายๆ เครื่อง ทำให้การใช้งานของ user ไม่ต้องรอคิวหรือรอการ process ข้อมูลที่ต้องใช้เวลานานเหมือนกับ application ที่ทำงานอยู่บน server เครื่องเดียวที่มี resource อยู่อย่างจำกัดทั้ง CPU, Memory และ Harddisk ทำให้การใช้งานของ user เร็วขึ้น เช่น สามารถโหลดข้อมูลรูปภาพจากเว็ปได้เร็วขึ้น การเข้าถึงข้อมูลของ application ได้เร็วขึ้น เป็นต้น
หากไม่มี Load Balancer จะเป็นอย่างไร?
- ทำให้ไม่สามารถรองรับการให้บริการหรือการใช้งานของ user จำนวนมากๆ ได้ เนื่องจากไม่รองรับการขยายของ (scale out) application หรือ service ไปยัง server หลายๆ เครื่องได้
- ทำให้ application หรือ service ไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องได้ เนื่องจาก application ทำงานอยู่บน server เพียงเครืองเดียว ในกรณีเกิดปัญหาจึงส่งผลให้ไม่สามารถใช้งาน application ได้
- ทำให้การใช้งานของ user ช้าในกรณีที่มีการใช้งานของ user มากๆ เนื่องจาก application ทำงานอยู่บน server เพียงเครื่องเดียวที่มี resource อยู่อย่างจำกัด
Flextainer บริการ Platform-as-a-Service ที่มาพร้อม Load Balancer จาก NIPA Cloud จะช่วยให้ application ของท่านพร้อมให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และจัดการปัญหาเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างอยู่หมัด
หากองค์กรใดกำลังเผชิญปัญหาดังกล่าว ‘Flextainer’ บริการ Platform-as-a-Service จาก NIPA Cloud ผู้ให้บริการคลาวด์ไทย เป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ศึกษารายละเอียดและโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3GzFxfp
หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Mobile (TH) : 086-019-4000
Mobile (EN) : 081-841-4949
Office : 02-107-8251 ext. 444, 416, 417
เว็บไซต์ www.nipa.cloud
เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/nipacloud
อีเมล sales@nipa.cloud