หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วเกี่ยวกับ Jenkins ซึ่งถือเป็น Open Source Tools รูปแบบหนึ่ง แต่อาจจะยังไม่แน่ใจว่าเราใช้ Jenkins ทำอะไรได้บ้าง เรามีคำตอบ …
Jenkins เป็น Open Source Tools ที่เปรียบเหมือนพ่อบ้านคนหนึ่งตามรูปโลโก้ มีหน้าที่คอยรับใช้ตามคำสั่งของเรา เพียงแค่เรากำหนดขั้นตอน และสิ่งที่ต้องใช้
โดย Jenkins เป็น Tool ที่จะรัน Test แทนเรา เก็บ Test Report และคอยแจ้งปัญหาเวลามี Test Fail ไม่ว่าเราจะใช้ Test framework อย่าง Robot framework, Cucumber, Specflow เป็นต้น
Jenkins ถูกเขียนด้วยภาษา Java ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนอง 2 คอนเซ็ปต์หลัก คือ Continuous Integration (CI) และ Continuous Delivery (CD) โดยการรันเทสของเรานั้นจะเป็นการนำไปผูกอยู่กับ Flow ของ Continuous Integration นั่นเอง โดย Continuous Integration หรือ CI คือ คอนเซ็ปต์ที่เป็นหลักการ ให้ทีมพัฒนาทำการ Integrate Code หรือรวมโค้ดบ่อยๆ บนรากฐานของคุณภาพ
ซึ่งการ Continuous Integration หรือ CI นั้นทำให้สามารถแก้ไขปัญหาการรวมโค้ดเข้าด้วยกันได้ยากและใช้เวลานาน การเกิดบั๊ก รวมไปถึงลดระยะเวลาในการทำงานลงได้อีกด้วย โดยสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ Continuous Integration หรือ CI คือการรวมโค้ดเข้าด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งบ่อยเท่าไหร่ยิ่งดี ทั้งยังมีชุดทดสอบเพื่อสามารถทดสอบย้อนหลังได้รวดเร็ว ซึ่งเราสามารถนำไปใช้งานได้ง่าย และ ใช้ Jenkins ในการ config ให้ Trigger สั่งให้ Run ชุดทดสอบ automated testing
จัดได้ว่า Jenkins เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ใช้ในการทำงานที่น่าสนใจมาก เพื่อเป็นตัวช่วยในการพัฒนาองค์กร ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจะดีไม่น้อย