NIPA Cloud เปิดตัว ‘NIPA Cloud Space’
ยกระดับคลาวด์ไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานโลก
22022022 NIPA Cloud เปิดตัว public cloud รุ่นใหม่ล่าสุด ‘NIPA Cloud Space’ อย่างเป็นทางการ ยกระดับคลาวด์สัญชาติไทยให้ทัดเทียม global cloud ที่มาพร้อมคุณภาพและการให้บริการแบบจัดเต็ม ตอกย้ำความเป็นหนึ่งด้านผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย
บริษัท นิภา เทคโนโลยี จำกัด หรือ NIPA Cloud เป็น local cloud provider หรือผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศเจ้าแรกของไทย ที่ให้บริการทั้ง private cloud และ public cloud กับองค์กรต่าง ๆ มากมาย เพื่อเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่จะมาถึง โดยในปี 2565 นี้ บริษัทก็กำลังจะมุ่งเข้าสู่ปีที่ 5 อย่างเต็มภาคภูมิ
NIPA Cloud เป็นบริษัทที่วิจัยและพัฒนาระบบคลาวด์ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง ผ่าน Open Source Software ที่มีชื่อว่า OpenStack ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ระดับโลกที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และนำมาพัฒนาต่อยอดเองได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม การวิจัยและพัฒนาคลาวด์ในประเทศเองนี้ NIPA Cloud มุ่งเป้าหมายไปยังการให้บริการคลาวด์กับธุรกิจที่อยู่ในไทย ผ่านนักพัฒนาที่เป็นคนไทยด้วยกัน เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการคลาวด์ในราคาที่จับต้องได้ และไม่ต้องพึ่งพาบริการคลาวด์จากต่างชาติอีกต่อไป
จากการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งตลอด 5 ปี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 หรือ 22022022 นี้ NIPA Cloud ได้เปิดตัว NIPA Cloud Space อันสื่อถึงพื้นที่คลาวด์ที่กว้างมากขึ้นและมี Availability Zone (AZs) แต่ละแห่งที่เชื่อมต่อกัน ราวกับห้วงอวกาศ (space) ขนาดมหึมาที่มีดวงดาวเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ โดยมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับ public cloud ของไทยให้เทียบเท่ากับ global cloud หรือผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก เสริมให้ NIPA Cloud เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศได้อย่างแท้จริง ซึ่ง NIPA Cloud Space นี้ได้ยกระดับและทำลายข้อจำกัดของ public cloud เดิมในหลายด้าน อาทิ
- ความเร็วของ snapshot หรือ autobackup เพิ่มขึ้น จากเดิม 10 นาทีต่อ 10 GB แต่ NIPA Cloud Space สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องรอให้เสียเวลา นอกจากนั้นก็ยังนำ downtime ออก จากที่แต่เดิมทำได้สัปดาห์ละครั้ง
- CPU เสถียรมากยิ่งขึ้น ด้วยหน่วยประมวลผล AMD EPYC (ROME) รุ่นที่สอง เนื่องจากรุ่นใหม่เปลี่ยนจาก Shared CPU ที่เมื่อมีผู้ใช้งานพร้อมกันมาก ๆ จะเกิดความไม่เสถียร เป็น Dedicated CPU ที่เป็น virtual core ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับ CPU เป็นอย่างมากจากการแบ่ง core แยกให้ผู้ใช้บริการแต่ละส่วน
- เมมโมรีเร็วขึ้น 3,200 MHz จากการเปลี่ยนจาก Shared memory มาใช้ Dedicated memory ที่ยังให้ค่า latency ที่ต่ำลงด้วย
- เน็ตเวิร์กมีเสถียรภาพมากขึ้น ค่า latency ต่ำลง แก้ปัญหา port fail ของรุ่นก่อนหน้า และมีความเร็วเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ความเร็วสูงสุด 2 GB per VM (20 GB per compute) เพิ่มขึ้นเป็น 10 GB per VM (50 GB per compute)
- ข้อมูลปลอดภัยระดับสูง จากการจัดสรร Availability Zone (AZs) หลายแห่ง (กรุงเทพฯ นนทบุรี และศรีราชา) ด้วยการรองรับโครงสร้างพื้นฐานจากหลายพื้นที่ (multi-site infrastructure support), High Availability (HA) และโซลูชั่นบริการกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติ (Disaster Recovery as a Service–DRaaS)
- ถ่ายโอนข้อมูลได้ไวขึ้น ด้วย internal bandwidth ที่เปิดเต็มท่อ และยังลดปัญหาความหน่วงได้มากกว่าคลัสเตอร์เดิมถึง 10 เท่า ซึ่งคลัสเตอร์นี้ยังสนับสนุนการเชื่อมต่อ 5G และเทคโนโลยี IoT อีกด้วย
- เร่งสมรรถภาพและความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลแบบไร้รอยต่อ ด้วย Tungsten Fabric Networking ที่ควบคุมจากศูนย์กลาง สนับสนุนการเชื่อมต่อหลากหลายประเภท ได้แก่ VPC Direct Link, VPN, MPLS และ SD-WAN เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้ง edge cloud, multi cloud และ hybrid cloud
- ด้วยฮาร์ดแวร์เทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ล่าสุดของ Juniper Network Switch ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคลาวด์ให้สูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังสนับสนุน AZs หลายแห่งด้วยฟังก์ชันของการเชื่อมต่อในชิ้นงานเดียว แต่ละ AZs เชื่อมต่อกันด้วย MPLS link
- เพิ่มการจัดเก็บข้อมูลประเภทอื่น เพื่อให้เข้ากับการใช้งานหลายรูปแบบและมีสมรรถภาพสูง พร้อมกับ NVMe Storage ที่รวดเร็วขึ้นและแสดงผลได้ดีกว่า SSDs ด้วย IOPs จำนวนหนึ่งล้านหน่วย ใช้งานได้ทั้งคลัสเตอร์
- เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การกู้คืน root password ที่มีรีเซตทั้ง Windows และ Linux, S3 Object Storage ที่รองรับ multisite, Static Website บน S3 ที่รองรับ multisite, และ Volume Performance Type ที่เพิ่ม Standard HDD, Standard SSD และ Premium SSD เข้ามา เป็นต้น
- จ่ายเงินตามการใช้งานจริง (pay-as-you-go)
- และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
จะเห็นได้ว่าการยกระดับ public cloud สู่ NIPA Cloud Space นั้น เป็นการยกระดับทั้งการให้บริการและคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้ กล่าวคือ ยกระดับให้การใช้งานมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด และยกระดับคุณภาพฮาร์ดแวร์ด้วยการจับมือกับบริษัทระดับโลก อย่าง Juniper, GIGABYTE และแบรนด์อื่น ๆ ที่มาตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า NIPA Cloud ให้บริการคลาวด์คุณภาพระดับสากล และเป็น local cloud provider แนวหน้าของประเทศไทยอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ NIPA Cloud ยังให้บริการโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก เรามีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยดูแลคลาวด์ของธุรกิจท่านตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดปัญหาก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยแก้ไขได้ทันท่วงที และยังมีการออกแบบการใช้งานฟีเจอร์ให้สะดวกและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์อันน่าประทับใจ ตอบโจทย์กลุ่มคนทุกประเภทที่สามารถนำคลาวด์ไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง
NIPA Cloud Space พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nipa.cloud/products/nipa-space หรือทดลองใช้งานได้แล้วที่ https://space.nipa.cloud/ และหากใครสนใจหรือต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่
เว็บไซต์ www.nipa.cloud
เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/nipacloud
อีเมล sales@nipa.cloud
Office : 02-107-8251 ext. 444, 416, 417
Mobile (TH) : 086-019-4000
Mobile (EN) : 081-841-4949