นานกว่าสิบปีแล้วที่ OpenStack Cloud ที่เป็น Open-source Infrastructure-as-a-Service (IaaS) รวมถึงเครื่องมือจัดเตรียมระบบคลาวด์อย่าง Airship หรือ ระบบ CI/CD (Continuous Integration and Continuous Delivery) อย่าง Zuul นั้น ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่มีทั้งขาขึ้นและลง ระหว่างช่วงของความนิยมลดลง (Trough of Disillusionment) และ ช่วงของความเข้าใจในเทคโนโลยีที่มากขึ้น (Slope of Enlightenment) ใน Gartner Hype Cycle แต่เมื่อ Microsoft ได้เข้าร่วม Open Infrastructure Foundation นั่นย่อมแสดงให้ทุกคนเห็นว่า OpenStack และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่จุด Plateau of Productivity หรือจุดที่บ่งบอกว่าเทคโนโลยีนี้ได้ถูกใช้ในวงกว้างแล้ว
ทำไม Microsoft ตัดสินใจเข้าร่วมกับ OpenStack community – ก็เพราะว่า Microsoft เล็งเห็นถึงการช่วยผลักดันและสร้างผลตอบแทนให้คลาวด์เทคโนโลยีก้าวเข้าสู่ระบบ Hybrid Cloud ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะความสามารถเฉพาะทางด้าน 5G ของ OpenStack
Microsoft ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกในระดับแพลตตินัม (Platinum Level) ซึ่งเป็นระดับสมาชิกที่สูงสุดของ OpenInfra Foundation การเข้าร่วมในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เนื่องจากหากไปดูผลสำรวจของผู้ใช้งาน OpenStack ของปี ค.ศ. 2021 ซึ่งจัดทำโดย Superuser Magazine จะพบว่า 40% ของผู้ใช้งาน OpenStack ในการกำหนดค่ามัลติคลาวด์นั้น ใช้ OpenStack ใน Azure อยู่แล้วนั่นเอง
Microsoft และอีก 60 องค์กรที่เป็นสมาชิก OpenInfra อยู่แล้ว จะเป็นผู้ร่วมกันกำหนดอนาคตของ Cloud Infrastructure ที่มาจาก open-source ล้วน ๆ นอกจากนั้น ยังมีการสนับสนุนจากผู้คนมากกว่า 110,000 คนจาก 187 ประเทศทั่วโลก ที่จะช่วยกันพัฒนาโปรแกรมอย่าง เช่น open-source infrastructure programs for AI, Container-native apps, Edge computing และ Cloud และยังมีโปรเจคอย่าง Kata Containers, OpenInfra Labs, StarlingX และโครงการ Magma 5G อีกด้วย
โปรเจคเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญทั้งหมด โดยทางประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ OpenInfra Foundation คุณ Mark Collier ได้กล่าวว่า “ซอฟต์แวร์อย่าง OpenStack เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้ระบบเครือข่ายโทรคมนาคมที่ดีที่สุดในโลก มากถึง 9 เครือข่ายจาก 10 เครือข่าย เช่น Kata Containers ที่ดูแลเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกและ Airship ที่ใช้ขับเคลื่อนระบบ 4G และ 5G ของ AT&T อยู่ทุกวันนี้”
คุณ Ryan van Wyk ตัวแทนจาก Microsoftได้กล่าวว่า “การที่ Microsoft ให้การสนับสนุน OpenInfra Foundation ในครั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะผลักดันการสร้าง เทคโนโลยี Open Infrastructure สำหรับอนาคต เนื่องจากไฮบริดคลาวด์นั้น เป็นส่วนสำคัญ ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีของพวกเรา” van Wyk ได้กล่าวต่อว่า “เราเชื่อในความหลากหลายของระบบคลาวด์ ทั้งในรูปแบบ Public และ Private cloud และจากแบบไฮเปอร์สเกล (Hyperscale) จนถึงเอดจ์ (Edge) โดยในแต่ละแบบจะถูกปรับให้เหมาะสม ต่อความต้องการของลูกค้า และเราจะไม่สามารถทำได้ ถ้าไม่มี open source software ทั้งนี้เราได้เข้าร่วมกับ OpenInfra Foundation เพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมกับสังคมของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยจะร่วมกันสร้างและผสมผสานเทคโนโลยี open source เพื่อที่จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานของ Microsoft Azure ยกระดับสู่ ผู้ให้บริการ (Operators Infrastructure) อย่างแท้จริง”
ทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าองค์กรชั้นนำระดับโลก กำลังให้ความสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของความเป็นไปในเรื่องเทคโนโลยีที่จะต้องนำ open source มาประยุกต์ใช้กับองค์กร ไม่เว้นแม้แต่ Microsoft หรือ software private cloud อย่าง VMware ก็ได้ให้ความสนใจ OpenStack โดยเข้ามาเป็นสมาชิกระดับแพลตตินัมด้วยเช่นกัน สำหรับ NIPA Cloud ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญตรงนี้ด้วย ว่าเทคโนโลยี open source นั้นมีข้อดีมากมาย ทั้งช่วยลดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียค่า license และการพัฒนานั้นถูกเปิดกว้าง ทำให้แนวโน้มของเทคโนโลยีมีการพัฒนาอยู่เสมอ จึงเกิดเป็นสินค้าและบริการทางด้านคลาวด์ของเราที่มีพื้นฐานอยู่บน open source ที่เรียกว่า OpenStack เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจในไทยได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีที่ดี คุณภาพระดับโลก ในราคาที่จับต้องได้
References:
Vaughan-Nichols, S. J. (2021, September 7). “Microsoft joins Open Infrastructure Foundation”. ZDNet. https://www-zdnet-com.cdn.ampproject.org/c/s/www.zdnet.com/google-amp/article/microsoft-joins-open-infrastructure-foundation/
Hype Cycle Research Methodology. (n.d.). Gartner. Retrieved September 28, 2021, from https://www.gartner.com/en/research/methodologies/gartner-hype-cycle Microsoft joins Open Infrastructure Foundation | ZDNet